ช่วงระยะเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับการเรียนรู้ของมนุษย์
คือแรกเกิด ถึง 7 ปี สมองพัฒนาไปถึง 80% ของผู้ใหญ่
เด็กจึงควรได้รับการดูแลด้านโภชนาการและสุขลักษณะ
เพื่อให้สามารถพัฒนาศักยภาพสมองของเขาได้เต็มความสามารถ
อาหารสำหรับเด็กปฐมวัย (แรกเกิด - 6 ปี) จึงควรมีครบทั้ง 5 หมู่ และมีปริมาณเพียงพอเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
แรกเกิด – 6 เดือน : นมแม่ เป็นอาหารที่ดีที่สุด สำหรับทารกทุกคน เนื่องจากมีทั้งสารอาหารและภูมิต้านทานโรค
6 เดือน - 1 ปี
: น้ำนมแม่เริ่มลดลง จึงควรเริ่มอาหารเสริม กึ่งเหลวบดละเอียด 2-3
ช้อนโต๊ะ ให้เริ่ม 1 มื้อในช่วงแรก สังเกตอาการแพ้อาหาร
เมื่อเด็กคุ้นเคยดีแล้วจึงเริ่มอาหารชนิดใหม่ ข้นขึ้นและหยาบขึ้นตามลำดับ
8-9 เดือน ให้อาหารเสริม 2 มื้อ 10-12 เดือน ให้อาหารเสริม 3 มื้อ
ควรให้โอกาสทารกได้หยิบจับอาหารกินเองบ้างเมื่อใช้มือได้
1-5 ปี
: เด็กต้องการอาหารที่มีประโยชน์
มีสารอาหารครบถ้วนเพื่อการเจริญเติบโตเต็มที่ของร่างกาย บำรุงเซลล์ประสาท
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ควรให้อาหารเหล่านี้แก่เด็ก
- ตับ ไข่แดง เลือด ช่วยเสริมความจำ และสมาธิ
- ปลา ช่วยเพิ่มความจำ การเรียนรู้ง่ายและรวดเร็ว
- ผัก ผลไม้ มีวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างเยื่อบุต่างๆ
- นม เนื้อสัตว์ มีแร่ธาตุ มีผลต่อการทำงานของสมอง
- อาหารทะเล มีไอโอดีนมีผลต่อ IQ
พ่อแม่มีส่วนช่วยให้เด็กรับประทานอาหารได้ง่ายขึ้นโดย
- ให้เด็กได้รับประทานอาหารครบทั้ง 3 มื้อ
- จัดอาหารให้น่ารับประทาน สีสันดึงดูด ชมเชยเมื่อเด็กรับประทานอาหารหมด
- พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการรับประทานอาหาร ไม่เลือกอาหาร และสนุกกับการรับประทานอาหาร
- สร้างบรรยากาศที่ดีในการรับประทานอาหารร่วมกัน
การพัฒนาศักยภาพทางสมองของเด็กขึ้นกับ อาหาร พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การมีโอกาสได้ใช้ความคิดอยู่เสมอ
สมองจึงจะพัฒนาได้เต็มศักยภาพ แล้วประเทศของเราจะพัฒนาตามไปด้วย ดังคำกล่าว
"เด็กฉลาด ชาติเจริญ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น